สารจากประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ

จากการตื่นตัวของทุกองค์กรที่ให้ความสนใจปัจจัยต่าง ๆ ทั้งด้านทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาที่เปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมาก ทำให้เห็นพัฒนาการ การปรับตัวของภาคธุรกิจและผู้บริโภค และในปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ทุกภาคส่วนธุรกิจเริ่มฟื้นตัวและกลับมาทำธุรกิจในภาวะปกติ ภายหลังการเปิดประเทศและการเดินทางระหว่างประเทศทั่วโลกเข้าสู่ภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจยังคงเผชิญกับความท้าทายจากความเสี่ยงในด้านต่าง ๆ อาทิ ภาวะสงคราม โรคระบาดที่ยังมีต่อเนื่อง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สถานการณ์ทางการเงินทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งมีโอกาสที่จะกระทบเศรษฐกิจในประเทศไทย และธุรกิจต้องเตรียมปรับตัวเพื่อเตรียมพร้อมรับมืออย่างทันท่วงที

DMT ก้าวสู่ปีที่ 35 อย่างแข็งแกร่ง ด้วยการพัฒนาและนำ Solution ใหม่ๆ มาใช้ในการดำเนินงาน เพื่อขับเคลื่อนสโลแกนที่ว่า “ทางเลือกที่เห็นค่า...เวลาของคุณ” เราพร้อมส่งมอบคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม และยึดมั่นในเจตนารมย์ที่จะสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งและสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ ผ่านการดำเนินธุรกิจตามแผนกลยุทธ์เพื่อความยั่งยืนของบริษัท ด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการธุรกิจ ควบคู่ไปกับแนวคิดการดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน และเตรียมองค์กรให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนองค์กรที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer focus) ผ่านการบริหารจัดการโดยทีมงาน (Teamwork) ที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อความเป็นธุรกิจที่พร้อมทุกสถานการณ์ มุ่งมั่นในการทำงานให้ประสบความสำเร็จได้ตามแผนที่กำหนด (Achievement Motivation) ด้วยทางบริษัทฯ ได้ กำหนดงานด้าน Environment, Social, and Governance : ESG อย่างเป็นระบบ โดยได้วางกลไกในการบริหารงานด้านนี้เข้าไปในระบบบริหารจัดการ (Work Process) เพื่อให้การขับเคลื่อนเรื่องนี้ลงไปสู่ระดับพนักงานสร้าง DNA ของทั้งองค์กร เช่น DNA 3 ด้าน ได้แก่ E-In Process , S-In Process และ G-In Process (ESG In Process) เพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนของธุรกิจและการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม

ในนามประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ในนามประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) ขอขอบคุณผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ที่ให้ความเชื่อมั่นและสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัทฯ ด้วยดีเสมอมา รวมถึงขอบคุณกรรมการ ผู้บริหารและพนักงานทุกคนที่ได้ทุ่มเทแรงกายและแรงใจในการช่วยให้บริษัทฯ เดินหน้าต่อไปได้ แม้มีความท้าทายจากปัจจัยและอุปสรรคต่าง ๆ เข้ามาก็ตาม เพื่อความเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

ในปี 2566 แม้ว่าทั่วโลกจะฟื้นตัวจากสถานการณ์โรคระบาดโคโรน่าไวรัส (Covid-19) แต่ยังคงมีความท้าทายจากเหตุการณ์สงครามที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลต่อราคาเชื้อเพลิง (น้ำมัน) ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ทำให้การดำเนินชีวิตของประชาชนเกิดการปรับตัวสู่ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) และส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป

ในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ จึงมีการปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ตลอดจนการบริหารจัดการความเสี่ยง เสริมความยืดหยุ่นในการรับมือกับปัจจัยการเปลี่ยนแปลงทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ และรักษาสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกิจการด้วยการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ และสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ตามเป้าหมาย ประกอบกับกิจกรรมการเดินทางรูปแบบต่าง ๆ ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้บริษัทฯ มีการฟื้นตัวของรายได้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีผลประกอบการสูงขึ้นอย่างชัดเจน โดยภาพรวมผลประกอบการของบริษัทฯ อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ซึ่งเป็นผลมาจากการเดินหน้าตามแผนธุรกิจเพื่อความยั่งยืนที่กำหนดไว้ โดยมุ่งเน้นการเสริมความพร้อมและศักยภาพกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการทางยกระดับ ควบคู่กับการบริหารจัดการองค์กรด้วยการสร้างประสิทธิภาพในการทำงานตามเป้าหมายรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน

สำหรับปี 2566 ยังคงเป็นอีกหนึ่งปีที่ต้องเผชิญกับความท้าทายในเรื่องต่าง ๆ อาทิ ความผันผวนทางเศรษฐกิจ ความไม่แน่นอนของการเมืองในประเทศ และภาวะสงครามในต่างประเทศ ผมในนามกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) ขอให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย เชื่อมั่นและให้การสนับสนุนในการดำเนินงานของบริษัทฯ และความพร้อมของทีมงานล้วนเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนให้บริษัทฯ สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ก้าวสู่การ“เป็นบริษัทฯ ประกอบกิจการในระบบคมนาคม ขนส่ง และกิจการอื่น ๆ ด้วยระบบบริหารที่มีประสิทธิภาพ ล้ำสมัย อย่างยั่งยืน”